คุณอยากเขียนบทความลงเว็บ และต้องการเพิ่มคะแนน Authority Score ด้วยไหม หากคุณต้องการ บทความนี้ผมตั้งใจจะสอนถึงรูปแบบทความหนึ่งที่เรียกว่า Listicle ซึ่งออกแบบบนหลักการ EEAT ที่ช่วยให้ผู้อ่านได้รับประโยชน์จากการอ่านบทความสูงสุด และยังส่งผลต่อคะแนน Authority Score ของเว็บคุณด้วย
รายละเอียดของรูปแบบ Listicle เป็นอย่างไร มาตามอ่านไปพร้อมกันเลยครับ
1.ทำความเข้าใจก่อนว่า Listicle คืออะไร
หากพูดถึงบทความรูปแบบ Listicles นั้นกูรูนักการตลาดออนไลน์นามว่า Brian Dean แห่ง Backlinko.com ได้ให้คำนิยามไว้อย่างน่าสนใจว่า…
“Listicle (หรือที่รู้จักกันในชื่อ “list posts”) คือบทความที่จัดโครงสร้างในรูปแบบลิสต์
รูปแบบที่พบได้บ่อยที่สุดคือ ลิสต์สั้นๆ ประมาณ 10 ถึง 20 ข้อ ที่มีเนื้อหายึดตามธีมเฉพาะ
อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบัน Listicle สมัยใหม่มักมีการใส่ข้อมูลเพิ่มเติมรอบๆ แต่ละข้อ เพื่อให้เนื้อหามีประโยชน์มากยิ่งขึ้น”
ซึ่งสอดคล้องกับการให้นิยามในเว็บ wikipedia ที่กล่าวถึง Listicle ไว้ว่า…
“Listicle คือ “written work structured as a list” โดยมักจะแสดงหัวข้อย่อยที่มีตัวเลข พร้อมข้อความอธิบายอยู่ใต้แต่ละหัวข้อ”
ดังนั้นผมจึงขอสรุปรูปแบบบทความที่เรียกว่า Listicle นั้น หมายถึง “บทความที่แบ่งเนื้อหาออกเป็นหัวข้อย่อย (List+Article) ซึ่งเน้นให้ผู้อ่านอ่านง่าย สแกนเร็ว และได้เข้าใจเนื้อความที่ส่งต่ออย่างชัดเจน เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่อ่านบทความจากมือถือ”
ซึ่งสอดคล้องกับพฤติกรรมนักอ่านในปัจจุบันจากกงานวิจัยระบุว่า
ในช่วงต้นปี 2024 ผลการสำรวจของสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย (PUBAT) พบข้อมูลสำคัญว่า คนไทยอ่านหนังสือเฉลี่ย 113 นาทีต่อวัน (ประมาณ 1.9 ชั่วโมง) ซึ่งเพิ่มขึ้นจากแต่ก่อนที่เรามักได้ยินคำกล่าวว่าคนไทยอ่านหนังสือไม่เกิน 7 บรรทัด อย่างชัดเจน
อีกทั้งข้อมูลใน wikipedia ยังระบุอีกว่าพฤติกรรมการใช้อินเทอร์เน็ตชาวไทยก็เพิ่มขึ้นเฉลี่ยถึงวันละ 92 นาที
นอกจากนี้บทความรูปแบบ Listicle ยังเป็นบทความที่มักได้รับการกดแชร์มากที่สุดรูปแบบหนึ่งอีกด้วย ดังนั้นเว็บไซต์ที่มุ่งสร้างคุณภาพของบทความ และจำนวนทราฟิกเข้าชม จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเขียนบทความรูปแบบนี้อย่างสม่ำเสมอ
ตัวอย่างหัวข้อ Listicle
| 10 เคล็ดลับประหยัดเงินแบบมินิมอล ที่ทำแล้วรวยเร้วขึ้นทันที |
| 7 อาหารเสริมที่ช่วยลดน้ำตาลในเลือก เหมาะสมที่สุดสำคับคนเป็นเบาหวาน |
| 3 วิธีทำงานแบบ Single tasking ที่ช่วยให้คุณไมหลุดโฟกัสการทำงาน |
จากหัวข้อบทความที่ผมยกตัวอย่างข้างต้น คุณจะได้เห็นได้ชัดเจนว่า น่าอ่าน และน่าแชร์เป็นอย่างยิ่ง ซึ่งสิ่งนี้ถือเป็นเสน่ห์ของบทความรูปแบบ Listicle นั่นเองครับ
โดยการเขียนบทความรูปแบบนี้ จะมีโครงสร้างของบทความที่นักเขียนสามารถนำไปใช้เป็นโครงสร้างเขียนบทความได้ทุก ๆ ครั้ง เพื่อให้ได้คุณภาพที่เหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง โดยรูปแบบโครงสร้างเป็นดังนี้
2.โครงสร้างของบทความ Listicle
โครงสร้างหลักของบทความ แบ่งออกเป็นกลุ่มดังต่อไปนี้คือ
| ลำดับโครงสร้าง | คำอธิบายโดยย่อ |
|---|---|
| A.หัวข้อ | |
| B.คำนำ | |
| C.เนื้อหาแบบลิสต | |
| D.ท่อนสรุป |
A.หัวข้อ (Headline)
หัวข้อถือเป็นจุดเริ่มต้นของการดึงความสนใจผู้อ่านให้อ่านเนื้อความต่อไป ดังนั้นการตั้งประเด็นของหัวข้อ จะอยู่ในรูปแบบ หลักการ / เคล็ดลับ / ข้อความระวัง / สิ่งที่ควรรู้ / ความลับ / เทคนิค เป็นต้น โดยจะมีการใส่ตัวเลขลงปด้วยเสมอ ซึ่งหากเขียนเป็นสูตรการเขียนหัวข้อเรื่องจะได้ดังนี้ครับ
| สูตรหัวข้อเรื่อง = ตัวเลข + KEYWORD + HOOK |
ตัวอย่างเช่น
| 10 เคล็ดลับประหยัดเงินแบบมินิมอล ที่ทำแล้วรวยเร้วขึ้นทันที |
| 7 อาหารเสริมที่ช่วยลดน้ำตาลในเลือก เหมาะสมที่สุดสำคับคนเป็นเบาหวาน |
| 3 วิธีทำงานแบบ Single tasking ที่ช่วยให้คุณไมหลุดโฟกัสการทำงาน |
B.คำนำ
คำนำถือเป็นส่วนเริ่มต้นของการเปิดเนื้อหาในบทความ โดยเราจะเขียนเกี่ยวกับปัญหาและเหตุผลสำคัญว่าทำไมคุณจำควรอ่านบทความนี้ โดยผู้เขียนจะต้องชีประโยชน์ที่ได้รับหลังจากอ่านบทความนี้จบ โดยท่อนคำนำ มีเรื่องสำคัญ 1 เรื่องคือ จะต้องปรากฎ Keyword จำนวน 1 คำ ให้อยู่ภายใน 100 คำไทยแรก ซึ่งจะมีผลต่อ SEO อย่างยิ่ง
ตัวอย่างคำนำ
หลายคนพยายามเก็บเงินแต่ก็ไม่สำเร็จ เพราะขาดระบบที่ง่ายและทำได้จริง วันนี้เราจะมาบอก 9 วิธีเก็บเงินเดือนละหมื่น ที่ทำได้แม้รายได้น้อย เพื่อให้คุณมีเงินสำรองใช้ในยามจำเป็นและมีความมั่นคงทางการเงินมากขึ้น
ข้อมูลอ้างอิง
| What are Listicles? | https://backlinko.com/hub/content/listicles |
| Listicle | https://en.wikipedia.org/wiki/Listicle |
| Thais enjoy reading more than alleged, publishers say | https://www.nationthailand.com/life/art-culture/40040087 |